
Work or Worst จับคู่สกินแคร์ ส่วนผสมอะไรบ้างที่ควรและไม่ควรใช้คู่กัน
การดูแลผิวในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกมากมาย จนบางครั้งอาจสับสนว่าผลิตภัณฑ์ใดควรใช้ร่วมกัน และผลิตภัณฑ์ใดที่ไม่ควรนำมาผสมกัน การจับคู่สกินแคร์ที่ถูกต้องจะช่วยให้การบำรุงผิวได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แต่ถ้าหากจับคู่ผิด อาจส่งผลเสียต่อผิวได้ ดังนั้นบทความนี้จะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการจับคู่สกินแคร์ โดยจะเน้นไปที่ส่วนผสมที่ควรและไม่ควรใช้คู่กัน พร้อมทั้งเผยเคล็ดลับจาก Kiehl’s ที่จะช่วยให้คุณดูแลผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ส่วนผสมที่ใช้คู่กันแล้วทำให้ผิวเสีย มีอะไรบ้าง
การใช้สกินแคร์ที่ไม่เข้ากัน อาจทำให้เกิดการระคายเคือง ผิวแดง หรือเกิดสิวได้ ตัวอย่างส่วนผสมที่ไม่ควรใช้คู่กัน ได้แก่
Retinol + Benzoyl Peroxide
Retinol กับ Benzoyl Peroxide การใช้คู่กันอาจทำให้ผิวแห้งมากเกินไป และเกิดการระคายเคืองได้
Salicylic + Glycolic
Salicylic กับ Glycolic ทั้งสองส่วนผสมมีหน้าที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเหมือนกัน การใช้ทั้งสองชิ้นนี้คู่กันจะทำให้ผิวลอกมากเกินไป ระคายเคือง อักเสบได้ง่าย แถมยังทำให้ผิวแห้ง ปราการผิวอ่อนแอด้วยค่ะ ดังนั้นจึงควรเลือกใช้แค่ 1 ส่วนผสมเท่านั้น
Vitamin C และ AHA/BHA
Vitamin C และ AHA/BHA การใช้คู่กันในขั้นตอนเดียวกัน อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ เช่นเดียวกับการใช้ Retinol และ Benzoyl Peroxide
Retinol และ AHA/BHA
Retinol และ AHA/BHA การใช้คู่กันในขั้นตอนเดียวกัน อาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้ เช่นเดียวกับการใช้ Vitamin C กับ AHA/BHA และ Retinol กับ Benzoyl Peroxide
ส่วนผสมที่ใช้คู่กันแล้วทำให้ผิวดี มีอะไรบ้าง
มาถึงการจับคู่สกินแคร์ที่ถูกต้อง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงผิวได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างส่วนผสมที่ควรใช้คู่กัน ได้แก่
Vitamin C + ครีมกันแดด
Vitamin C กับ ครีมกันแดด วิตามินซีช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ และเมื่อใช้คู่กับกันแดดจะช่วยป้องกันไม่ให้วิตามินซีสลายตัวจากแสงแดด และยังคงทำหน้าที่ในส่วนของการปกป้องผิวได้เป็นอย่างดีดังเดิม นอกจากนี้วิตามินซียังทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายโดยปัจจัยภายนอกในระหว่างวันได้เป็นอย่างดี
Vitamin C + Hyaluronic Acid
Vitamin C กับ Hyaluronic Acid ใช้คู่กันจะช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
Retinol + Hyaluronic Acid
Retinol กับ Hyaluronic Acid ในส่วนของ Retinol ช่วยลดเลือนริ้วรอย ส่วน Hyaluronic Acid ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวไม่แห้งจนเกินไป
Retinol + Niacinamide
Retinol กับ Niacinamide สำหรับ Retinol ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออก และ Niacinamide จะช่วยลดอาการระคายเคืองจากการใช้ Retinol ได้ดี

เคล็ดลับจาก Kiehl’s ที่แบรนด์อื่นไม่เคยบอก
Kiehl’s ในฐานะแบรนด์สกินแคร์ที่มีประสบการณ์มายาวนาน ขอแนะนำเคล็ดลับในการดูแลผิว แบบฉบับพิเศษที่ไม่เคยมีใครบอกคุณ เคล็ดลับนั้นก็คือ Kiehl's DUO เซรั่ม C+A คู่หูดูแลผิวที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวเฉพาะเจาะจง ด้วยอนุพันธ์วิตามินซี จาก Clearly Corrective™ Dark Spot Solution และ เรตินอล จาก Retinol Skin-Renewing Daily Micro-Dose Serum เข้าด้วยกัน เพื่อผลลัพธ์ที่เหนือกว่า
อนุพันธ์วิตามินซี
ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รอยสิว ผิวดูสว่างใสขึ้น ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรงและอ่อนเยาว์
เรตินอล
เรตินอลช่วยลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก ผิวเรียบเนียนขึ้น กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ และยังช่วยให้รูขุมขนดูกระชับ
ทำไมต้อง Kiehl's DUO เซรั่ม C+A
● ผสานพลังสองส่วนผสมหลัก : อนุพันธ์วิตามินซีและเรตินอล เมื่อใช้ร่วมกันจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการดูแลผิวให้ดียิ่งขึ้น
● สูตรอ่อนโยน : เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบาง
● เห็นผลจริง : ผิวดูสว่างใสขึ้น ริ้วรอยลดเลือนลง ผิวเรียบเนียนขึ้นภายใน 3 วัน
● เทคโนโลยีขั้นสูง : ผลิตภัณฑ์จาก Kiehl's ผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
วิธีใช้
ทาเซรั่ม C+A บนผิวหน้าที่สะอาดเป็นประจำ เช้าและเย็น เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่น ๆ ในไลน์ Kiehl's อาทิเช่น โทนเนอร์ โฟมล้างหน้า และครีมกันแดด เป็นต้น
สรุป
การจับคู่สกินแคร์ที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลผิว การทำความเข้าใจส่วนผสมต่าง ๆ และเคล็ดลับจาก Kiehl’s จะช่วยให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ และบรรลุเป้าหมายในการดูแลผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ